เครือข่ายนักวิชาการจี้ยกเลิกประกาศ สธ.ฉบับปลดล็อกกัญชา

เครือข่ายนักวิชาการจี้ยกเลิกประกาศ สธ.ฉบับปลดล็อกกัญชา

เครือข่ายนักวิชาการ และภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด รวม 39 รายชื่อ ได้มีหนังสือเปิดผนึกเรื่อง จดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 3 ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และขอเรียกร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติด ส่งถึง ส.ส.ที่ลงมติให้ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ รัฐมนตรีว่าการ สธ. และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนาตรี และประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวระบุว่า สืบเนื่องจากที่ ส.ส.มีมติให้ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ออกจากวาระการประชุมเพื่อให้กรรมาธิการวิสามัญกลับไปทบทวนรายละเอียดใหม่นั้น ทางเครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติดขอแสดงความเห็นด้วยและขอบคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ ด้วยเหตุผล คือ

1. ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯฉบับนี้มุ่งเน้นกัญชาเพื่อนันทนาการ ไม่ใช่กัญชาทางการแพทย์อย่างที่กล่าวอ้างไว้ จะทำให้เกิดเศรษฐกิจกัญชาเพื่อนันทนาการทั่วประเทศไทย

2. การอนุญาตให้ปลูกกัญชาในครัวเรือนโดยไม่มีมาตรการป้องกันการรั่วไหลที่เพียงพอ จะทำให้เยาวชนนำดอกกัญชาไปสูบ ให้กัน และจำหน่ายอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ และจะมีการนำกัญชาไปใส่อาหารขายทั่วไปโดยไม่บอกผู้บริโภค

เครือข่ายนักวิชาการจี้ยกเลิกประกาศ สธ.ฉบับปลดล็อกกัญชา

3. มาตรการควบคุมการขายและโฆษณากัญชามุ่งควบคุมเฉพาะช่อดอกและยางกัญชา จะเกิดการโฆษณาและส่งเสริมการขายดอกกัญชาโดยใช้กลยุทธ์โฆษณาและส่งเสริมการขายใบกัญชาแทน ในทุกสื่อตลอด 24 ชั่วโมง เหมือนกับที่เราได้เห็นการโฆษณาน้ำแร่ หรือโซดาแทนการโฆษณาเบียร์อยู่ทั่วไป

4. ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯฉบับนี้ บังคับให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำหน้าที่สนับสนุนผู้ประกอบการกัญชา แทนที่จะทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค อันเป็นการบิดเบือนภารกิจหน้าที่ของหน่วยงานของ สธ.อย่างร้ายแรง ประชาชนจะไม่มีหน่วยงานใดช่วยคุ้มครอง และ

5. ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ นี้ จะนำประเทศไทยไปกระทำผิดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยยาเสพติด จะส่งผลให้ประเทศไทยอาจถูกลงโทษห้ามนำยาที่จำเป็นบางชนิดเข้ามาใช้ในประเทศไทย (เช่น มอร์ฟีน) เป็นต้น การมีมติให้ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ นี้ เพื่อให้มีการทบทวนให้รอบคอบจึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะการได้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพจะก่อปัญหามากกว่าแก้ปัญหา

ปัญหาผลกระทบของกัญชาเสรีไม่ได้อยู่ที่ ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ (ที่ไร้ประสิทธิภาพ) ต้องตกไปแล้วทำให้เกิดสภาวะสุญญากาศ แต่ปัญหาสภาวะสุญญากาศอยู่ที่การคงอยู่ของประกาศ สธ.ฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติด

ดังนั้น ในขณะที่กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ นี้ ให้รอบคอบซึ่งต้องใช้เวลา เพราะต้องผ่านกระบวนการทั้ง 2 สภา หรืออาจมีการยุบสภาก่อน ประเทศไทยจึงมีความจำเป็นต้อง “ปิดกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศก่อน” เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อประเทศและอนาคตของเยาวชน และรัฐมนตรีว่าการ สธ.ได้กล่าวไว้หลายครั้งต่อสาธารณะว่า พร้อมที่จะชะลอการปลดกัญชาเสรี เพียงรอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเรียกประชุมเท่านั้น จึงขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการ สธ. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติด เพื่อปิดสภาวะสุญญากาศทันที ในขณะที่กำลังพัฒนาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ฉบับนี้ให้รอบคอบ ประเทศไทยจะกลับไปเป็นกัญชาทางการแพทย์อย่างเดิม ซึ่งจะสามารถพัฒนาให้ผู้ป่วยเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ให้ดียิ่งขึ้นได้ต่อไป หากทำเช่นนี้จะเรียกได้ว่าเป็นนโยบายกัญชาที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ tedbrews.com

ufa slot

Releated